กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ คือ
- กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ คืออะไร มีวิธีการทํางานอย่างไร
- กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ บัตร สวัสดิการแห่งรัฐ
กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ คือ
ปกติแล้วพวกเรามักใช้คำว่า e-wallet และ digital wallet สลับกันไปมาเป็นเรื่องปกติ และที่จริงแล้วสองคำนี้มีแนวคิดเดียวกัน นั่นก็เพราะว่าทั้งคู่เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้เทคโนโลยีในการจัดเก็บและจัดการสินทรัพย์ทางการเงินและการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ อย่างไรก็ตาม ยังมีบางคนที่อาจแยกแยะความแตกต่างระหว่างทั้งสองคำนี้ได้ไม่ค่อยเคลียร์เท่าไรนัก และใครที่ยังไม่แน่ใจว่าทั้งสองคำนั้นต่างกันอย่างไร เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจให้มากขึ้นเอง
ปัจจุบัน E-Wallet หรือระบบ epayment ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จึงมีความปลอดภัยสูง ส่งผลให้มีผู้คนหันมาใช้เทคโนโลยีนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากเป็นระบบที่ผู้ใช้สามารถควบคุมบัญชีของตัวเองได้อย่างอิสระ สามารถเติมเงินเข้าตามจำนวนที่ต้องการ ไม่จำเป็นต้องผูกกับบัตรใด ๆ รวมถึงมีระบบตรวจสอบบัญชีและยอดเงินเข้า-ออกที่รวดเร็ว หากพบปัญหา ก็สามารถแจ้งผู้ให้บริการได้ทันที
E-wallet สามารถลดต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเงินสด, การขนส่ง, และการรักษาความปลอดภัยได้ ไม่เพียงเท่านี้ บรรดาธุรกิจต่างๆ ยังคงได้รับประโยชน์จากค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตอีกด้วย และยังไม่ต้องรับความเสี่ยงในการได้เงินจากลูกค้าไม่ครบ หรือเกิดการตกหล่นโดยพนักงานหน้าร้านอีกต่างหาก
กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ คืออะไร มีวิธีการทํางานอย่างไร
เริ่มต้นกันด้วยประโยชน์ข้อแรกของ e-wallet ที่ช่วยให้เราทุกคนสามารถทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ เช่น ช็อปปิ้งออนไลน์, จ่ายบิลค่าน้ำค่าไฟ, และการโอนเงินให้ใครสักคน ผ่านทางสมาร์ตโฟนหรืออุปกรณ์ดิจิทัลอื่นๆ ได้จากทุกที่และทุกเวลา
รับการชําระเงินด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัลที่จุดขายธุรกิจจะต้องมีเทอร์มินัล POS หรือเครื่องอ่านบัตรที่มีเทคโนโลยี NFC เพื่อรับชําระเงินด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัลแบบไร้สัมผัสสําหรับธุรกรรมที่จุดขาย เทอร์มินัลการชําระเงินใหม่ล่าสุดส่วนใหญ่ รวมถึง Stripe Terminal มีฟังก์ชันในตัวที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถรับชำระเงินผ่านกระเป๋าเงินได้
ยอดขายเพิ่มขึ้นกระเป๋าเงินดิจิทัลช่วยลดความยุ่งยากในการชำระเงิน ส่งผลให้มีอัตราการเปลี่ยนเป็นลูกค้าและรายได้ที่สูงขึ้น การมีขั้นตอนการชําระเงินที่ราบรื่นซึ่งรองรับวิธีการชําระเงินที่หลากหลาย เช่น กระเป๋าเงินดิจิทัล ถือเป็นวิธีสำคัญในการขจัดอุปสรรคที่อาจทำให้ลูกค้าใหม่เปลี่ยนใจไม่ทำการซื้อ และลดมูลค่าตลอดอายุการใช้งานของลูกค้าที่มีอยู่
พื้นที่กระเป๋าเงินดิจิทัลมีการแข่งขันสูงและเติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัทอย่าง PayPal, Venmo และ Cash App ต่างก็เสนอผลิตภัณฑ์กระเป๋าเงินดิจิทัลที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถชําระค่าสินค้าหรือบริการทางออนไลน์หรือที่จุดขายได้โดยใช้แอปที่เกี่ยวข้อง ธนาคารและบริษัทบัตรเครดิตหลายแห่งมีฟังก์ชันกระเป๋าเงินดิจิทัลเป็นของตนเองในแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
E-Wallet หรือ Electronic Wallet สามารถเรียกได้ว่าเป็น Digital Wallet ความหมายตรงๆคือ กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ กระเป๋าเงินออนไลน์ สามารถใช้งานโดยการเติมเงินจากบัญชีธนาคารเข้าแอพพลิเคชั่น ซึ่งไม่มีกำหนดขั้นต่ำ โดยสมัครผ่านแอพพลิเคชัน E-Wallet เพื่อยืนยันตัวตนและติดตั้งข้อมูลส่วนบุคคลลงไป
https://morlamfestival.com/ uapood.com/wp-content/uploads/2020/10/e-wallet-new-900×471.jpg” alt=”กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ บัตร สวัสดิการแห่งรัฐ” />
กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ บัตร สวัสดิการแห่งรัฐ
โอนเงิน e-Money คืนให้แก่ผู้ที่ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐในวันที่ 23-24 พ.ค.2567 ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน หรือบัญชีเงินฝากธนาคารตามที่ผู้มีสิทธิแจ้งความประสงค์ในหนังสือให้ความยินยอมโอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีร่วมกับบุคคลอื่น หรือหนังสือให้ความยินยอมโอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีบุคคลอื่น
ทั้งนี้ ผู้มีสิทธิสามารถตรวจสอบข้อมูลเงิน e-Money คงเหลือในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้ที่ระบบบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม หัวข้อตรวจสอบสิทธิสวัสดิการสังคม และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร 0 2109 2345 หรือ Call Center กรมบัญชีกลาง 0 2270 6400
ผู้มีสิทธิสามารถตรวจสอบข้อมูลเงิน e-Money คงเหลือในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้ที่ระบบบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม (หัวข้อตรวจสอบสิทธิสวัสดิการสังคม) คลิก cr – กรมบัญชีกลาง Call Center บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 0 2109 2345
ผู้ที่ยังไม่ยืนยันตัวตน ให้ยืนยันตัวตน ภายในวันที่ 26 เมษายน 2567 ที่ บมจ. ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขา โดยจะทำการโอนเงิน e-Money คืนให้ กำหนดการที่ให้ผู้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐดำเนินการเพื่อรับคืนเงิน e-Money คงเหลือในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการเก่า
หรือหนังสือให้ความยินยอมโอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีบุคคลอื่น สำหรับผู้ได้รับสิทธิโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (เฉพาะกรณีผู้พิการ/ผู้ป่วยติดเตียง/ผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ที่ไม่สามารถผูกพร้อมเพย์ได้) และทำการแก้ไขรายการที่โอนไม่สำเร็จ (Reject) จำนวน 1 ครั้ง ในวันที่ 21 มิถุนายน 2567
– เงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อคนต่อเดือน – เงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (เม.ย. – มิ.ย. 2567) – เงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน ประกอบด้วย บขส. รถไฟ ขสมก. รถไฟฟ้า และรถโดยสารเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ